Friday, February 13, 2015

ภาพสอนการแพทย์แผนไทย (ก) ของ อ. หมอสุชาติ ภูวรัตน์ ปราชญ์ชาวบ้าน ภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย

ภาพสอนการแพทย์แผนไทย (ก) 
 ของ อ. หมอสุชาติ ภูวรัตน์ ปราชญ์ชาวบ้าน
ภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย

การผสมพันธุ์ระหว่างเต่าพันธุ์ไทยแท้
กับเต่าพันธุ์เทศ น่าจะล้มเหลว
ถ้าไม่อนุรักษ์เอาไว้ พันธ์ุไทยดั้งเดิมจะสูญพันธุ์
ในปัจจุบันนี้หมอตำแยได้สูญพันธุ์ไปแล้ว
จัดทำโดย อ.หมอสุชาติ ภูวรัตน์
นธ.เอก, บาลีประโยค 1-2
(อดีตพระธรรมทูตต่างประเทศ)
B.S. Engineering Design Tech.
 B.A. ศาสนศาสตร์บัณฑิต
B.S. Computer Information Systems
B.TM.  พทย์แผนไทยบัณฑิต
สาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ
บ.ภ., พท.ว., พท.ผ., พท.น.
ครูแพทย์แผนไทย 4 ด้าน
ศูนย์การแพทย์แผนไทยภูเก็ต

ทำเพื่อการศึกษาและประโยชน์แก่ผู้ชม
จัดทำไว้เป็นอนุสรณ์
การเรียนการสอนแพทย์แผนไทย (ก)

 โดย อ. หมอสุชาติ ภูวรัตน์ ปราชญ์ชาวบ้าน
ภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย

ภาพการเรียนการสอนโดยครูผู้รับมอบตัวศิษย์ แพทย์แผนไทย (ก) สมัยก่อนสังกัดอยู่กับสำนักงานสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะเหล่านี้จะหาชมได้ยากในอนาคตข้างหน้า 

เพราะว่าตั้งแต่ก่อตั้งเป็นสภาวิชาชีพการแพทย์แผนไทย 
การออกกฎหมายต่างๆ ได้บีบบังคับให้ครูผู้รับมอบตัวศิษย์ที่มีทุนทรัพย์น้อยต้องถอยออกห่าง และปลดระวางตัวเอง ไปตามความต้องการของสภาการแพทย์แผนไทย 

คณะกรรมการชุดชั่วคราวได้วางเงื่อนไขเงื่อนเวลาผูกมัดไว้ ว่า ครูผู้รับมอบตัวศิษย์ต้องเป็นเจ้าของสถานพยาบาลไม่น้อยกว่า ปี 

ในสถานพยาบาลต้องมีห้องซักประวัติ ห้องตรวจโรค ห้องจ่ายยา ที่พักคนไข้ ห้องสมุด ห้องเรียน ห้องประชุม ห้องทำยาเฉพาะคนไข้ ห้องนวดต้องมีเตียงนวดเท่ากับจำนวนศิษย์ ถ้า 20 คนก็ต้องมี 20 เตียง ขนาดเตียงเบาะ 120 ซม. X 200 ซม. ระยะห่าง 80 ซม. เป็นต้น

และต้องผ่านการรับรองด้วยราคาแพงมากๆ เป็นหลักหมื่น และยังไม่รู้ว่าถูกประเมินกี่ครั้งถึงจะผ่าน ทั้งยังต้องเสียค่ารับรองหลักสูตรอีกครึ่งหมื่น ไม่รู้ว่ากี่ครั้งถึงจะผ่านได้  จะต้องเสียเงินอีกสักเท่าไหร่ จึงจะมีสิทธิ์ รับมอบตัวศิษย์ได้ และศิษย์ ซึ่งเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการศึกษากันคนละเท่าไหร่ 

สรุปแล้วค่าใช้จ่ายในการสร้างสถาบันสถานพยาบาล ครูผู้รับมอบตัวศิษย์จะต้องลงทุนกันคนละเท่าไหร่ จึงจะรับมอบตัวศิษย์ได้ ?
และนักเรียนผู้สนใจศึกษาแพทย์แผนไทย (ก) จะต้องลงทุนกันคนละเท่าไหร่ จึงจะสำเร็จได้รับใบประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย เพื่อออกไปประกอบอาชีพบริการประชาชนด้านสุขภาพให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติต่อไป 

ถามจริงๆ ว่าหมอแผนไทย (ก) รักษาคนตายปีละกี่คน หายจากโรคกี่คน  แล้วแผนอื่นๆ รักษาคนตายปีละกี่คน หายจากโรคกี่คน  

ท่านอาจารย์ที่รับผมเป็นลูกศิษย์ ได้บอกผมว่า ได้เปิดคลินิกมา ตั้งแต่ปี 2500 ถึงปัจจุบัน ยังไม่เคยทำให้คนไข้ตายสักคน มีแต่คนหายจากโรค บรรพบุรุษของท่านก็เป็นหมอแผนโบราณสืบทอดกันมาหลายรุ่น ก็ไม่เคยรักษาให้คนไข้ตายสักคน เพราะฉะนั้นแพทย์แผนไทย (ก) ที่สืบทอดกันมาจึงไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อคนไข้แต่อย่างใด

อยากทราบว่าคณะกรรมการชั่วคราว และที่เป็นอยู่ พวกท่านก็เป็นแพทย์แผนไทย (ก) ใช่ไหม หรือไม่ใช่

ถามจริงๆว่าพวกท่านเคยรักษาคนไข้ตายมาแล้วกี่คน หายจากโรคกี่ร้อยกี่พันคน หรือยังไม่เคยรักษาคนแต่เป็นเพียงนักวิชาการ 
หมอกระดาษเท่านั้น จึงได้พยายามออกกฎต่างๆ ออกข้อสอบให้เขาสอบภาคปฏิบัติเวชกรรมไทย ปีที่ผ่านมา ทั้งๆที่ไม่มีความรู้จริงในข้อสอบเหล่านั้น

ตัวอย่าง เช่นไข้ประดงแรด เดินมาหาหมอผู้เข้าสอบด้วยตนเองได้ คนออกข้อสอบไม่มีความรู้จริง เรื่องผู้ป่วยไข้ประดงแรด ทำให้ผู้เข้าสอบได้รับความเสียหายมาก สอบตกเกือบพัน สอบผ่านแค่ 30 คน 
ท่านอาจารย์ผมท่านหนึ่ง ว่าคนไข้ประดงแรดเดินมาหาหมอด้วยตัวเองไม่ได้ ต้องมีคนช่วยหามมา เพราะมีอุณหภูมิสูง 40 องศา 

นี่คือข้อผิดพลาดของคณะอนุกรรมการออกข้อสอบ ผู้เสียหายมีสิทธิ์ฟ้องร้องได้ตามกฎหมาย เพราะพวกคุณใช้อัตโนมติ ออกข้อสอบที่ไม่ถูกต้อง รู้ไม่จริง ที่ควรออกพวกคุณไม่ออก เช่น กิจของหมอแผนไทย ประการ เป็นต้น เข้าใจว่าพวกออกข้อสอบไม่รู้ ไม่เข้าใจ
กิจของหมอแผนไทย ประการ จึงเอาวิธีการสอบของแผนอื่น ที่ผู้เข้าสอบไม่ได้เรียนมาให้แผนไทยสอบ ผู้เข้าสอบถูกกลั่นแกล้งโดยไม่เป็นธรรม จึงสอบตกเกือบพันคน ผ่านแค่ 30 คน
การประกาศผลสอบก็ปิดบังหมกเม็ดไม่โปร่งใส ไม่ประกาศรายชื่อผู้สอบได้สอบตกของแต่ละจังหวัด เหมือนกับที่สำนักงานสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะได้เคยทำมาทุกปีก่อนเป็นสภาฯ
อีกทั้งค่าลงทะเบียนขึ้นสอบและค่าใบประกอบวิชาชีพก็ปรับขึ้นราคามากกว่าเดิม เชิญติดตามกันเอาเอง ว่าถูกต้องและยุติธรรมหรือไม่ 

คิดดูอย่างคนโง่ๆ ไร้ปัญญาว่าต้องลงทุนกันคนละเท่าไหร่ ทั้งที่ดินและสิ่งก่อสร้าง ต้องมีพื้นที่ขนาดไหนกว่าจะผ่านการรับรองสถาบันสถานพยาบาล ค่ารับรองหลักสูตรต่างๆ แล้วครูผู้รับมอบตัวศิษย์จะมีทุนทรัพย์เพียงพอที่จะมารับมอบตัวศิษย์เพื่อถ่ายทอดภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย (ก) เพื่อสืบทอดสู่ลูกหลานอย่างที่เคยเป็นตามสิทธิเสรีภาพในวิชาชีพหรือไม่ 

นับตั้งแต่ก่อตั้งเป็นสภาวิชาชีพการแพทย์แผนไทย  ทำให้ครูผู้รับมอบตัวศิษย์ แพทย์แผนไทย (ก) รับมอบตัวศิษย์ได้น้อยลง

ไม่มีการอบรมครูผู้รับมอบตัวศิษย์ แพทย์แผนไทย (ก) ตั้งแต่ปี 2556 และ 2559  ไม่มีการต่อใบอนุญาตครูผู้รับมอบตัวศิษย์ เพิ่งจะเริ่มมีการอบรมครูฯ และออกใบอนุญาตให้ เมื่อปี 2560 แต่ต้องเป็นครูฯ ที่สถาบันผ่านการรับรองจากสภาฯ เท่านั้น 

ปี 2561และ 2562 ได้อบรมครูรับมอบตัวศิษย์อีก เสียเงินแล้วเก็บใบครูฯไว้ดูจะรับมอบตัวศิษย์ด้วยตนเองได้เมื่อไรยังไม่รู้ คอยดูกันต่อไป

กฎเกณฑ์การสอบ และการประกาศผลสอบก็ผิดเพี้ยนไปจากแพทย์แผนไทย (ก) ได้ข่าวว่าจะให้สอบเป็น ขั้นตอน คือ

1. ต้องสอบผ่านวิชากฎหมาย จึงมีสิทธิสอบผ่านภาคทฤษฎี
2. ต้องสอบผ่านภาคทฤษฎีแต่ละด้านจึงมีสิทธิ์สอบภาคปฏิบัติ
3. ต้องสอบผ่านภาคปฏิบัติ จึงจะมีสิทธิ์รับใบประกอบวิชาชีพฯ

สรุป เจตนารมณ์ ของการออกกฎหมาย เพื่ออะไร สภาวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ต้องตอบสมาชิกสภาวิชาชีพการแพทย์แผนไทย โดยเฉพาะครูผู้รับมอบตัวศิษย์ให้ได้ ว่าเป็นการคุมกำเนิด หรือลิดรอนสิทธิเสรีภาพในการศึกษาวิชาชีพการแพทย์แผนไทยเพื่อสืบทอดภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย (ก) หรือไม่? ทั้งๆที่แพทย์แผนไหนก็มาเรียนแพทย์แผนไทย (ก) ได้ทั้งนั้น  หรือต้องการทำลายแพทย์แผนไทย (ก) ให้ค่อยๆหมดสภาพและสูญพันธุ์ไปจากประเทศไทย ?











































สอนนักเรียนปลูกสมุนไพร
สอนนักเรียนอนุบาลศูนย์พัฒนาเด็กเล็กปลูกสมุนไพร
 
สอนนักเรียนอนุบาลศูนย์พัฒนาเด็กเล็กปลูกสมุนไพร

สอนนักเรียนอนุบาลศูนย์พัฒนาเด็กเล็กปลูกสมุนไพร

สอนนักเรียนอนุบาลศูนย์พัฒนาเด็กเล็กปลูกสมุนไพร

 สอนนักเรียนปลูกสมุนไพรในล้อยาง

 สอนนักเรียนปลูกสมุนไพรในล้อยาง

 สอนนักเรียนปลูกสมุนไพรในล้อยาง

No comments:

Post a Comment